หนึ่งในโรคที่มักถูกพูดถึงน้อย แต่แฝงความร้ายแรงไว้อย่างน่ากังวลในกลุ่มผู้ชายวัยกลางคนขึ้นไปคือ มะเร็งต่อมลูกหมาก โรคนี้มักเริ่มต้นอย่างเงียบๆ โดยไม่มีอาการชัดเจน และหลายครั้งกว่าจะตรวจพบก็อยู่ในระยะที่ยากต่อการรักษาแล้ว หากเข้าใจถึงความเสี่ยง อาการเบื้องต้น วิธีตรวจ และแนวทางดูแลตนเองตั้งแต่เนิ่นๆ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสการรักษาให้มีประสิทธิภาพได้มากขึ้น
มะเร็งต่อมลูกหมากเกิดขึ้นได้อย่างไร
ต่อมลูกหมากเป็นอวัยวะที่พบเฉพาะในเพศชาย มีขนาดประมาณลูกเกาลัด อยู่ใต้กระเพาะปัสสาวะ และทำหน้าที่ผลิตของเหลวบางส่วนที่อยู่ในน้ำอสุจิ เมื่อเซลล์ในบริเวณนี้เริ่มมีการเจริญเติบโตผิดปกติ ไม่ยับยั้งตนเอง และลุกลามอย่างต่อเนื่องก็จะกลายเป็นมะเร็ง สาเหตุของมะเร็งต่อมลูกหมากยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัด แต่มีปัจจัยที่อาจเกี่ยวข้อง ได้แก่ พันธุกรรม การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศชายโดยเฉพาะฮอร์โมนแอนโดรเจน อายุที่มากขึ้น รวมถึงวิถีชีวิต เช่น การบริโภคไขมันสูง การสูบบุหรี่ หรือขาดการออกกำลังกาย
สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม
แม้มะเร็งต่อมลูกหมากในระยะแรกจะไม่แสดงอาการชัดเจน แต่เมื่อเริ่มมีผลกระทบต่อระบบปัสสาวะหรือระบบอื่นๆ ของร่างกาย อาการที่มักพบ ได้แก่
- ปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะเวลากลางคืน
- ปัสสาวะไม่สุด รู้สึกเหมือนยังคงมีปัสสาวะค้างอยู่
- ปัสสาวะมีเลือดปน
- มีอาการปวดบริเวณเชิงกราน หลังส่วนล่าง หรือต้นขา
- รู้สึกไม่สบายหรือปวดเมื่อหลั่งน้ำอสุจิ
เมื่อพบอาการเหล่านี้ แม้จะยังไม่แน่ใจว่ามาจากโรคใด ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุให้แน่ชัด โดยเฉพาะในผู้ชายอายุ 50 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคนี้
วิธีการวินิจฉัยและตรวจคัดกรอง
การตรวจคัดกรองที่นิยมคือการตรวจเลือดเพื่อหาค่าของสาร PSA (Prostate-Specific Antigen) ซึ่งจะสูงขึ้นเมื่อมีภาวะผิดปกติในต่อมลูกหมาก เช่น การอักเสบหรือเนื้องอก รวมถึงการตรวจด้วยนิ้วทางทวารหนัก (DRE) เพื่อคลำหาความผิดปกติของต่อมลูกหมาก หากพบความผิดปกติจากการตรวจเบื้องต้น แพทย์อาจพิจารณาส่งตรวจเพิ่มเติม เช่น การตรวจอัลตราซาวด์ การเจาะชิ้นเนื้อ หรือ MRI เพื่อยืนยันการวินิจฉัย
แนวทางการรักษาที่ทันสมัยและหลากหลาย
วิธีการรักษาจะขึ้นอยู่กับระยะของโรคและสภาพร่างกายของผู้ป่วย โดยทั่วไปมีทางเลือกหลักๆ ได้แก่
- เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด (Active Surveillance) ใช้ในผู้ป่วยที่พบมะเร็งระยะเริ่มต้นและมีความเสี่ยงต่ำ
- การผ่าตัดนำต่อมลูกหมากออกทั้งหมด
- การฉายแสง เพื่อทำลายเซลล์มะเร็ง
- การรักษาด้วยฮอร์โมน เพื่อลดฮอร์โมนเพศชายที่กระตุ้นการเจริญเติบโตของมะเร็ง
- การใช้เคมีบำบัดในกรณีที่มะเร็งลุกลามไปยังอวัยวะอื่น
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้วางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุดกับผู้ป่วยแต่ละราย โดยคำนึงถึงคุณภาพชีวิตควบคู่ไปกับการควบคุมโรค
ป้องกันได้ ด้วยการดูแลสุขภาพที่ดี
แม้ไม่สามารถป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมากได้ 100% แต่สามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยวิธีง่ายๆ ดังนี้
- เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงไขมันอิ่มตัวสูง
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
- ตรวจสุขภาพประจำปี โดยเฉพาะเมื่อมีอายุ 50 ปีขึ้นไป หรือมีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็ง
- หากพบความผิดปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที
สรุป มะเร็งต่อมลูกหมากไม่ใช่เรื่องไกลตัว ถ้ารู้ทันและตรวจไว
มะเร็งต่อมลูกหมากเป็นภัยเงียบที่อาจเปลี่ยนชีวิตผู้ชายคนหนึ่งได้ในพริบตา แต่ถ้าเข้าใจอาการ รู้จักตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ และใส่ใจการดูแลตนเอง ก็สามารถลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสการรักษาให้หายขาดได้มากขึ้น การรับรู้คือกุญแจสำคัญ และการลงมือดูแลสุขภาพตั้งแต่วันนี้คือทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน